เมื่อคุณเดินสำรวจรอบๆ ละแวกบ้าน คุณคงเห็นอาคารรูปทรงต่างๆ มากมาย แต่คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าอะไรทำให้ตึกเหล่านี้แข็งแรงและมั่นคงได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่สามารถทะลุทะลวงท้องฟ้าได้ เหล็กเส้นเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง
เหล็กเส้นเป็นเหล็กเส้นยาวที่ผสมคอนกรีตเพื่อเพิ่มความทนทาน คอนกรีตเป็นวัสดุก่อสร้างที่มักใช้ทำทางเท้า สะพาน กำแพง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่คอนกรีตเพียงอย่างเดียวไม่ได้แข็งแรงเสมอไป และหากมีวัตถุหนักวางทับบนคอนกรีตเป็นเวลานาน ก็อาจเกิดการแตกร้าวได้ เหล็กเป็นม้วน ให้ความช่วยเหลือ!! เมื่อวางทับบนคอนกรีต พวกมันจะช่วยสร้างฐานรากให้แข็งแกร่งเพื่อให้ทนทานต่อแรงกดดันและน้ำหนักได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ผู้สร้างสามารถใช้เหล็กเส้นเพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักได้
ประเภทที่ 1: เหล็กเส้นเคลือบอีพ็อกซี เหล็กเส้นเคลือบด้วยสารอีพ็อกซีที่ช่วยป้องกันสนิมและการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่อาจมีปัญหาเรื่องน้ำ เช่น สะพานและโรงจอดรถ การเคลือบสารดังกล่าวทำให้เหล็กเส้นทนทานมากขึ้นเล็กน้อยในสภาวะที่สมบุกสมบัน
ประเภทแรกของ ม้วนเหล็ก คือ เหล็กเส้นชุบสังกะสี และถือเป็นเหล็กเส้นชนิดหนึ่งที่เคลือบสังกะสีเพื่อป้องกันสนิมหรือการกัดกร่อน มักใช้ในงานก่อสร้างทางทะเลและพื้นที่อื่นๆ ที่มีสภาพไม่เอื้ออำนวย เช่น บริเวณชายฝั่งที่มีผู้คนพลุกพล่าน เหล็กเส้นเหล่านี้ได้รับการปกป้องจากสภาพอากาศด้วยการเคลือบสังกะสี
ความแข็งแรงเพิ่มเติม: เหล็กเส้นเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง กล่าวคือ เหล็กเส้นเสริมความแข็งแรงให้อาคาร หมายความว่า เหล็กเส้นเสริมความแข็งแรงให้กับอาคาร โดยช่วยให้อาคารทนต่อแรงดัด แรงหัก และแรงเฉือนได้ เหล็กเส้นเสริมความแข็งแรงให้คอนกรีตเพื่อให้รับน้ำหนักที่มากขึ้นได้โดยไม่แตกร้าว
ประหยัดต้นทุน — การก่อสร้างจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าหากใช้เหล็กเส้นเสริม เหล็กเส้นเสริมแรง (เหล็กเส้น) อาจประหยัดต้นทุนได้มากกว่าในระยะยาว แม้จะต้องใช้วัสดุมากขึ้นก็ตาม ความแข็งแรงที่เพิ่มขึ้นจะช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้าง และลดการซ่อมแซมระหว่างทาง
แนวคิดสร้างสรรค์อีกประการหนึ่งคือ SmartRebar ซึ่งใช้เซ็นเซอร์เพื่อตรวจสอบสภาพของอาคารหรือโครงสร้าง เซ็นเซอร์เหล่านี้ช่วยตรวจจับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะเริ่มต้น และช่วยให้สามารถซ่อมแซมได้ทันที ก่อนที่ปัญหาที่ร้ายแรงจะเกิดขึ้น เทคโนโลยีนี้ช่วยให้อาคารปลอดภัยจากอันตราย